The Daily Audio Bible
Today's audio is from the GNT. Switch to the GNT to read along with the audio.
28 เพราะพวกเขา[a] คือชาติที่ไม่มีที่ปรึกษา
และพวกเขาไม่มีความเข้าใจ
29 ถ้าพวกเขาฉลาด เขาจะเข้าใจในสิ่งนี้
พวกเขาจะคิดถึงสิ่งที่ได้เกิดขึ้นกับเขา
30 คนๆหนึ่งจะไล่คนหนึ่งพันคนได้อย่างไร
และคนสองคนจะทำให้คนหนึ่งหมื่นคนวิ่งหนีไปได้อย่างไร
นอกจากพระศิลาของชาวอิสราเอลได้ขายพวกเขาไปแล้ว
นอกจากพระยาห์เวห์ได้มอบพวกเขาไป
31 เพราะศิลาของพวกเขาไม่เหมือนพระศิลาของเรา
และผู้ปกป้องของศัตรูเราก็ไม่เข้มแข็งเท่ากับพระศิลาของพวกเรา
32 ใช่แล้ว องุ่นของพวกเขามาจากองุ่นที่เก็บไว้ของโสโดม
และไร่องุ่นของโกโมราห์
องุ่นของพวกเขาเป็นองุ่นที่มีพิษ
เถาองุ่นของพวกเขาจะมีรสขม
33 เหล้าองุ่นของพวกเขาเป็นเหมือนพิษงู
เป็นพิษงูเห่าที่ร้ายแรงถึงตาย
34 พระยาห์เวห์พูดว่า ‘เราได้เก็บเหล้าองุ่นนี้ไว้
มันถูกเก็บอยู่ในโรงเก็บของเรา’
35 เราจะใช้มันลงโทษพวกเขาเอง
และตอบแทนพวกเขาเมื่อเท้าของพวกเขาลื่นไถล
เพราะเวลาแห่งความหายนะล่มจมของพวกเขาใกล้เข้ามาแล้ว
การลงโทษพวกเขากำลังจะมาในเร็วๆนี้
36 เมื่อพระองค์เห็นว่าอำนาจของพวกเขาหมดลง
ไม่มีผู้ปกครองและไม่มีผู้ช่วยเหลือ
พระยาห์เวห์ก็จะให้ความยุติธรรมกับประชาชนของพระองค์
และพระองค์จะให้ความเมตตากับผู้รับใช้ของพระองค์
37 พระองค์จึงจะพูดว่า ‘พระของพวกเขาอยู่ที่ไหนแล้ว
หินที่พวกเขาไว้ใจว่าปกป้องพวกเขาได้ อยู่ที่ไหนแล้ว
38 พระที่กินไขมันของเครื่องบูชาของพวกเขา
และดื่มเหล้าองุ่นของเครื่องดื่มบูชาของพวกเขา
ให้พระพวกนั้นลุกขึ้นมาช่วยเจ้าสิ
ให้พวกมันมาปกป้องเจ้าสิ
39 ตอนนี้เห็นแล้วหรือยังว่า เราผู้เดียว เป็นพระเจ้า
ไม่มีพระอื่นนอกจากเรา
เราให้ความตาย เราให้ชีวิต
เราได้ทำให้บาดเจ็บ เราจะรักษา
และไม่มีใครที่จะช่วยให้พ้นจากมือของเราได้
40 ที่จริงแล้ว เราได้ยกมือขึ้นบนสวรรค์
และสัญญาว่า เรามีชีวิตนิรันดร์ฉันใด
สิ่งนี้ก็จะเกิดขึ้นกับพวกเขาแน่ๆฉันนั้น
41 เราก็จะลับดาบของเราให้คมแวววาว
เราจะใช้มันลงโทษศัตรูของเรา คนที่เกลียดเรา
เราจะลงโทษตามที่พวกเขาสมควรจะได้รับ
42 ลูกธนูของเราจะอาบไปด้วยเลือดของศัตรู
ดาบของเราจะกินเนื้อหนัง
และเลือดของคนที่ถูกจับมาฆ่า
ดาบของเราจะตัดหัวของผู้นำของศัตรูพวกนั้น’
43 ชนชาติทั้งหลายเอ๋ย ให้แสดงความยินดีกับประชาชนของพระองค์
เพราะพระองค์จะทำโทษคนที่ฆ่าพวกผู้รับใช้ของพระองค์
พระองค์จะลงโทษศัตรูของพระองค์
พระองค์จะชำระแผ่นดินของพระองค์ให้บริสุทธิ์[b]”[c]
โมเสสร้องเพลงให้ประชาชนฟัง
44 แล้วโมเสสก็มาร้องเพลงนี้ให้ประชาชนชาวอิสราเอลฟัง โยชูวาลูกชายของนูนก็อยู่กับโมเสส 45 เมื่อโมเสสพูดคำเหล่านี้ให้ชาวอิสราเอลทั้งหมดฟังเสร็จแล้ว 46 โมเสสจึงพูดกับพวกเขาว่า “ให้ใส่ใจกับคำพูดเหล่านี้ ที่เราได้สั่งท่านในวันนี้ ให้บอกกับลูกๆว่าคำพูดเหล่านี้เป็นคำสั่ง เพื่อพวกเขาจะได้ระมัดระวังที่จะเชื่อฟังคำสอนนี้ 47 นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ มันเป็นเรื่องชีวิตของพวกท่าน และผ่านทางคำสอนเหล่านี้ พวกท่านจะได้มีชีวิตยืนยาวในแผ่นดินที่ท่านกำลังจะข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปเป็นเจ้าของ”
โมเสสบนภูเขาเนโบ
48 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสในวันนั้นเองว่า 49 “ขึ้นไปบนเทือกเขาอาบาริม ไปที่เขาเนโบในแผ่นดินของโมอับตรงข้ามเมืองเยริโค และมองดูแผ่นดินคานาอันที่เราได้ให้กับชาวอิสราเอลไว้เป็นสมบัติของพวกเขา 50 เจ้าจะตายบนภูเขานั้นที่เจ้ากำลังจะปีนขึ้นไป และเจ้าจะได้ไปอยู่ร่วมกับบรรพบุรุษของเจ้า เหมือนกับอาโรนพี่ชายของเจ้าที่ตายบนภูเขาโฮร์และได้ไปอยู่ร่วมกับบรรพบุรุษของเขา 51 เพราะเจ้าทั้งสองไม่ซื่อสัตย์กับเราท่ามกลางชาวอิสราเอลที่แหล่งน้ำเมรีบาห์คาเดชในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งศิน และเพราะพวกเจ้าไม่ให้เกียรติเราว่าเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ในหมู่ชาวอิสราเอล 52 ดังนั้นเจ้าจะได้เห็นแผ่นดินนั้นจากที่ไกลๆ แต่เจ้าจะไม่ได้เข้าไปในแผ่นดินที่เรากำลังจะยกให้กับชาวอิสราเอล”
เตรียมตัวให้พร้อมเสมอ
(มธ. 24:45-51)
35 “แต่งตัวเตรียมพร้อมที่จะรับใช้อยู่เสมอ และจุดตะเกียงให้ส่องสว่างอยู่เสมอ 36 เหมือนกับคนที่กำลังคอยเจ้านายของตนกลับมาจากงานแต่งงาน เมื่อเขามาเคาะประตูเรียก ก็จะได้เปิดให้ทันที 37 พวกคนใช้ที่เจ้านายกลับมาพบว่ายังคงตื่นคอยเขาอยู่ ก็ถือว่ามีเกียรติจริงๆ เราจะบอกให้รู้ว่า นายคนนั้นจะพาพวกคนใช้ไปนั่งที่โต๊ะ และเขาก็จะใส่ผ้ากันเปื้อน มาคอยให้บริการพวกคนใช้ที่นั่งกินอยู่ 38 ถ้านายกลับมาตอนเที่ยงคืนหรือดึกกว่านั้น แล้วพบว่าคนใช้ยังอยู่เตรียมพร้อมอย่างนั้น พวกเขาก็มีเกียรติจริงๆ 39 แต่ให้รู้นะว่า ถ้าเจ้าของบ้านรู้ตัวว่า ขโมยจะมาเวลาไหน เขาคงไม่ปล่อยให้ขโมยงัดเข้ามาในบ้านแน่ 40 พวกคุณก็เหมือนกัน ให้เตรียมพร้อมอยู่เสมอ เพราะบุตรมนุษย์จะมาตอนที่คุณคาดไม่ถึง”
ใครคือผู้รับใช้ที่ไว้ใจได้
(มธ. 24:45-51)
41 เปโตรได้ถามว่า “อาจารย์ครับ เรื่องเปรียบเทียบนี้ อาจารย์เล่าให้แต่พวกเราฟังเท่านั้น หรือเล่าให้กับทุกคนฟัง”
42 องค์เจ้าชีวิตจึงตอบว่า “ใครคือพ่อบ้านที่ซื่อสัตย์และฉลาด ที่เจ้านายมอบหมายให้ดูแลและจัดหาอาหารให้กับทาสอื่นๆตามเวลา 43 เมื่อนายกลับมาเห็นทาสคนนั้นทำงานอย่างดี ทาสคนนั้นก็จะได้รับเกียรติจริงๆ 44 เราจะบอกให้รู้ว่า เจ้านายจะแต่งตั้งทาสคนนั้นให้ดูแลทรัพย์สมบัติทั้งหมดของเขา 45 แต่ถ้าทาสคนนั้นคิดในใจว่า ‘นายของข้ายังไม่กลับมาหรอก’ ก็เลยเริ่มทุบตีพวกทาสชายหญิงคนอื่นๆและกินดื่มจนเมามาย 46 เจ้านายจะกลับมาในวันและเวลาที่เขาไม่คาดคิด แล้วเขาก็จะถูกตัดเป็นชิ้นๆพร้อมกับทาสคนอื่นๆที่ไม่เชื่อฟัง
47 ทาสที่ไม่ยอมเตรียมตัว หรือไม่ทำตามสิ่งที่เจ้านายสั่งให้ทำ จะถูกเฆี่ยนอย่างหนัก 48 แต่ถ้าทาสไม่รู้ว่าเจ้านายสั่งให้ทำอะไร ก็จะถูกเฆี่ยนน้อยหน่อยเมื่อทำผิด พระเจ้าให้พระพรกับใครมาก คนนั้นก็ต้องคืนมาก พระเจ้าฝากความรับผิดชอบให้กับใครมาก พระองค์ก็จะคาดหวังมากจากคนนั้น”
ความแตกแยกกันเรื่องพระเยซู
(มธ. 10:34-36)
49 “เรามาเพื่อทำให้โลกนี้ลุกเป็นไฟ เราอยากให้มันลุกเป็นไฟเดี๋ยวนี้เลย 50 แต่เราต้องได้รับการจุ่มลงไปในความทุกข์เสียก่อน เราเองก็รู้สึกทุกข์ใจมากจนกว่ามันจะสำเร็จ 51 อย่าคิดว่าเรามาเพื่อนำความสงบสุขมาให้กับโลกนี้ แต่เรามาเพื่อทำให้เกิดการแตกแยกต่างหาก 52 ต่อไปนี้ครอบครัวที่มีห้าคนจะแตกแยกกันเป็นสองฝ่าย สามต่อสอง หรือสองต่อสาม 53 จะเกิดการแตกแยกกันระหว่างพ่อกับลูกชาย แม่กับลูกสาว และแม่ผัวกับลูกสะใภ้”
ให้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นเดี๋ยวนี้
(มธ. 16:2-3)
54 แล้วพระเยซูหันไปพูดกับชาวบ้านว่า “เมื่อคุณเห็นก้อนเมฆมืดครึ้มลอยมาจากทิศตะวันตก คุณก็พูดว่า ‘ฝนจะตกแล้ว’ แล้วมันก็ตกจริงๆ 55 เมื่อคุณเห็นลมพัดมาจากทิศใต้ คุณก็บอกว่า ‘อากาศจะร้อนแน่ๆ’ และมันก็เป็นอย่างนั้น 56 ไอ้พวกหน้าซื่อใจคด พวกคุณรู้จักที่จะตีความหมายของดินฟ้าอากาศ แต่กลับไม่รู้จักความหมายของสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้
ไกล่เกลี่ยกับคู่กรณี
(มธ. 5:25-26)
57 คุณตัดสินใจเอาเองไม่ได้หรือ ว่าคุณควรจะทำยังไง 58 เมื่อคุณกำลังไปศาลกับคนที่ฟ้องร้องคุณ พยายามไกล่เกลี่ยกับเขาซะในระหว่างทาง ไม่อย่างนั้นเขาจะลากตัวคุณไปพบผู้พิพากษา และผู้พิพากษาก็จะส่งตัวคุณให้กับผู้คุมเพื่อจับเข้าคุก 59 เราจะบอกให้รู้ว่าคุณจะถูกขังจนกว่าจะใช้หนี้ครบทุกบาททุกสตางค์”
56 แต่พวกอิสราเอลก็ยังลองดีกับพระเจ้าผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุด
กบฏต่อพระองค์และไม่ได้เชื่อฟังกฎทั้งหลายของพระองค์
57 ชาวอิสราเอลไม่จงรักภักดีและทรยศต่อพระเจ้า เหมือนกับที่บรรพบุรุษของพวกเขาเคยทำ
พวกเขาเชื่อถือไม่ได้เหมือนคันธนูที่ใช้การไม่ได้
58 พวกเขาทำให้พระองค์โกรธด้วยการสร้างสถานศักดิ์สิทธิ์มากมาย
และทำให้พระองค์หึงหวงด้วยการสร้างรูปเคารพมากมาย
59 เมื่อพระเจ้าได้ยินเรื่องเหล่านี้ พระองค์โกรธ
และพระองค์ทอดทิ้งอิสราเอลอย่างสิ้นเชิง
60 พระองค์ละทิ้งเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ในเมืองชิโลห์ไป
ซึ่งเคยเป็นที่สถิตของพระองค์ท่ามกลางมนุษย์
61 พระองค์ยอมปล่อยให้หีบอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ถูกยึดไป
พระองค์ยอมปล่อยให้ศัตรูยึดเอาสัญลักษณ์แห่งฤทธิ์อำนาจและสง่าราศีของพระองค์ไป
62 พระองค์เกรี้ยวโกรธคนของพระองค์
และปล่อยให้คนของพระองค์ตายด้วยคมดาบ
63 พวกทหารหนุ่มถูกไฟเผาตายหมด
และพวกสาวบริสุทธิ์ยังคงไม่ได้แต่งงาน[a]
64 พวกนักบวชล้มตายด้วยคมดาบ
แต่ภรรยาหม้ายของพวกเขาไม่สามารถไว้ทุกข์ได้ตามปกติ
24 มือของคนขยันจะได้ปกครอง
แต่คนขี้เกียจจะต้องทำงานอย่างทาส
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International