Print Page Options Listen to Reading
Previous Prev Day Next DayNext

The Daily Audio Bible

This reading plan is provided by Brian Hardin from Daily Audio Bible.
Duration: 731 days

Today's audio is from the CSB. Switch to the CSB to read along with the audio.

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
ผู้วินิจฉัย 8:18-9:21

18 เขาพูดกับเศบาห์และศัลมุนนาว่า “พวกคนที่เจ้าฆ่าที่ภูเขาทาโบร์นั้นมีรูปร่างหน้าตายังไง” พวกเขาตอบว่า “แต่ละคนดูเหมือนกับเจ้าทุกอย่าง พวกเขาดูยังกับเป็นพวกลูกๆของกษัตริย์” 19 กิเดโอนพูดว่า “พวกเขาเป็นพี่น้องท้องเดียวกับข้า พระเจ้ามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด ถ้าพวกเจ้าได้ไว้ชีวิตพวกเขา ข้าก็คงไม่ฆ่าพวกเจ้าเหมือนกัน”

20 แล้วกิเดโอนก็บอกกับเยเธอร์ ลูกชายคนโตของเขาว่า “ลุกขึ้นมา ฆ่าพวกมันซะ” แต่เยเธอร์กลัวจึงไม่ยอมชักดาบออกมา เพราะเขายังเป็นเด็ก

21 แล้วเศบาห์และศัลมุนนาก็พูดว่า “เจ้าลุกขึ้นมาฆ่าพวกเราเองดีกว่า เป็นลูกผู้ชายแค่ไหนก็ดูที่กำลังนี่แหละ” กิเดโอนจึงลุกขึ้นมาฆ่าเศบาห์และศัลมุนนา และเขาก็เก็บเครื่องประดับรูปจันทร์เสี้ยวที่อยู่บนคอของพวกอูฐของพวกเขาไว้

กิเดโอนสร้างเอโฟด

22 จากนั้นชาวอิสราเอลพูดกับกิเดโอนว่า “ปกครองพวกเราเถิด ทั้งท่านและลูกหลานของท่าน เพราะท่านช่วยพวกเราให้พ้นจากเงื้อมมือของชาวมีเดียน”

23 กิเดโอนพูดกับพวกเขาว่า “ผมจะไม่ปกครองอยู่เหนือพวกท่านหรอก และลูกของผมก็จะไม่ปกครองเหนือท่านด้วย พระยาห์เวห์จะปกครองเหนือพวกท่านเอง” 24 แล้วกิเดโอนก็พูดกับพวกเขาว่า “ผมอยากจะขอพวกท่านอย่างหนึ่ง ผมอยากจะได้ตุ้มหูที่พวกท่านแต่ละคนยึดมาได้” (เพราะพวกศัตรูใส่ตุ้มหูทองคำ เพราะพวกเขาเป็นชาวอิชมาเอล)

25 พวกเขาพูดว่า “ได้เลย เราจะให้สิ่งนั้นกับท่าน” แล้วพวกเขาก็ปูผ้าลงและต่างก็โยนตุ้มหูที่ยึดมาได้ลงไป 26 ตุ้มหูทองคำทั้งหมดที่เขาขอมาได้ มีน้ำหนักประมาณสิบเก้ากิโลกรัม นอกจากนี้ยังมีเครื่องประดับรูปจันทร์เสี้ยว จี้เพชรรูปหยดน้ำ เสื้อคลุมสีม่วงที่กษัตริย์มีเดียนสวมใส่ และสร้อยคอที่ห้อยอยู่บนพวกคออูฐของพวกเขา

27 กิเดโอนเอาทองคำเหล่านั้นมาทำเป็นเอโฟด[a] และเก็บไว้ที่เมืองของเขา คือในเมืองโอฟราห์ และชาวอิสราเอลทั้งหมดก็ไม่ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า กลับไปนมัสการเอโฟดที่นั่น และเอโฟดนั้นก็กลายเป็นกับดักต่อกิเดโอนและครอบครัวของเขา

การตายของกิเดโอน

28 ชาวมีเดียนจึงอยู่ภายใต้การปกครองของชาวอิสราเอล และพวกมีเดียนก็ไม่ได้เงยหัวขึ้นมาก่อปัญหาอีกเลย แผ่นดินจึงเกิดความสงบสุขเป็นเวลาสี่สิบปีตลอดชีวิตของกิเดโอน 29 เยรุบบาอัล (กิเดโอน) ลูกชายของโยอาชก็กลับไปอยู่ที่บ้านของเขา 30 และเขามีลูกชายทั้งหมดเจ็ดสิบคน เพราะเขามีเมียหลายคน 31 เมียน้อยของกิเดโอนที่อาศัยอยู่ในเชเคมเกิดลูกชายให้กับเขาคนหนึ่ง เขาตั้งชื่อเด็กนั้นว่า อาบีเมเลค

32 แล้วกิเดโอนลูกชายโยอาชก็ตายไปเมื่อถึงวัยอันสมควร เขาถูกฝังในสุสานของโยอาชพ่อของเขา ที่โอฟราห์ของตระกูลอาบีเยเซอร์ 33 ทันทีที่กิเดโอนตาย ชาวอิสราเอลก็หันไปนมัสการพวกพระบาอัลอีก และนับถือพระบาอัล-เบรีท[b] เป็นพระเจ้าของพวกเขา 34 ดังนั้นชาวอิสราเอลลืมพระยาห์เวห์ พระเจ้าของพวกเขา ผู้ที่ช่วยพวกเขาให้พ้นจากมือของศัตรูในทุกด้าน 35 และพวกเขาก็ไม่ได้แสดงความจงรักภักดีต่อครอบครัวของเยรุบบาอัล (กิเดโอน) เป็นการตอบแทน สำหรับสิ่งดีๆทั้งหมดที่กิเดโอนได้ทำให้กับพวกชาวอิสราเอล

อาบีเมเลคขึ้นเป็นกษัตริย์

อาบีเมเลคลูกชายของเยรุบบาอัล[c] ขึ้นไปเมืองเชเคม เขาไปหาพี่น้องของแม่เขา และพูดกับพวกเขาและคนทั้งตระกูลของแม่เขาว่า “ช่วยไปถามพวกผู้นำทั้งหมดของเชเคมให้หน่อยว่า ‘แบบไหนจะดีกว่าสำหรับพวกท่าน ระหว่างมีลูกชายทั้งเจ็ดสิบคนของเยรุบบาอัลปกครองเหนือพวกท่าน หรือมีแค่คนคนเดียวปกครองพวกท่าน’ พวกท่านอย่าลืมนะว่า ผมเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของพวกท่านเอง”

แล้วพวกพี่น้องฝ่ายแม่ของเขาก็ไปพูดเรื่องพวกนี้ทั้งหมดต่อพวกผู้นำเมืองเชเคมแทนเขา แล้วพวกผู้นำเมืองเชเคมก็ได้ตัดสินใจติดตามอาบีเมเลค เพราะพวกเขาพูดว่า “เขาเป็นญาติของพวกเรา”

พวกเขาจึงเอาเงินเจ็ดสิบแผ่นจากวิหารของพระบาอัล-เบรีท แล้วเอามาให้อาบีเมเลค แล้วอาบีเมเลคก็เอาเงินพวกนี้ไปจ้างพวกนักเลงให้ติดตามเขาไป เขาไปบ้านพ่อเขาที่โอฟราห์ และฆ่าพี่น้องของเขาซึ่งเป็นลูกชายของเยรุบบาอัลทั้งเจ็ดสิบคนบนหินก้อนเดียว แต่โยธามลูกชายคนสุดท้องของเยรุบบาอัลรอดชีวิตไปได้ เพราะเขาไปแอบอยู่ ดังนั้นพวกผู้นำทั้งหมดของเชเคมและของเบธ-มิลโลต่างก็มารวมตัวกัน และไปหาอาบีเมเลค และแต่งตั้งให้เขาเป็นกษัตริย์ ที่ต้นโอ๊กข้างเสาหินในเชเคม

เรื่องของโยธาม

เมื่อมีคนไปบอกโยธาม เขาก็ขึ้นไปยืนบนภูเขาเกริซิม[d] และร้องตะโกนเรียกพวกเขาและพูดว่า

“ท่านผู้นำของเมืองเชเคมทั้งหลาย ฟังผมหน่อย แล้วพระเจ้าจะฟังเสียงของพวกท่าน วันหนึ่ง พวกต้นไม้ต่างๆตัดสินใจที่จะเลือกพระราชามาปกครองเหนือพวกเขา ดังนั้นพวกต้นไม้เหล่านั้น จึงไปเชิญต้นมะกอกเทศว่า ‘เชิญท่านมาเป็นพระราชาปกครองพวกเราหน่อย’ แล้วต้นมะกอกเทศ ก็ตอบต้นไม้พวกนั้นไปว่า ‘จะให้ข้าหยุดผลิตน้ำมันที่มีค่า ที่พระต่างๆและมนุษย์ต่างพากันยกย่องสรรเสริญ เพื่อไปกวัดแกว่งอยู่เหนือต้นไม้อื่นๆหรือ’

10 ดังนั้นต้นไม้เหล่านั้นจึงไปเชิญต้นมะเดื่อว่า ‘เชิญท่านมาเป็นพระราชาปกครองพวกเราหน่อย’ 11 แต่ต้นมะเดื่อตอบต้นไม้เหล่านั้นว่า ‘จะให้ข้าหยุดผลิตผลที่มีรสหวานและแสนดีของข้า เพื่อไปกวัดแกว่งอยู่เหนือต้นไม้อื่นๆหรือ’

12 ต้นไม้เหล่านั้นจึงไปเชิญเถาองุ่นว่า ‘เชิญท่านมาเป็นพระราชาปกครองพวกเราหน่อยเถิด’ 13 แต่เถาองุ่นตอบไปว่า ‘จะให้ข้าหยุดผลิตเหล้าองุ่นของข้า ที่ทั้งพระต่างๆและมนุษย์ต่างก็ชื่นชอบ เพื่อไปกวัดแกว่งอยู่เหนือต้นไม้อื่นๆหรือ’

14 ต้นไม้เหล่านั้นจึงไปเชิญต้นหนามว่า ‘เชิญท่านมาเป็นพระราชาปกครองพวกเราด้วยเถิด’ 15 ต้นไม้หนามตอบต้นไม้ต่างๆว่า ‘ถ้าพวกท่านต้องการจะแต่งตั้งข้าให้เป็นพระราชาปกครองเหนือพวกท่านจริงๆก็ให้พวกท่านเข้ามาหาที่กำบังใต้ร่มเงาของข้าเถิด แต่ถ้าพวกท่านไม่ทำอย่างนั้น ก็ขอให้ไฟออกมาจากพงหนาม เผาผลาญแม้แต่ต้นสนซีดาร์จากเลบานอน’

16 ตอนที่พวกท่านตั้งอาบีเมเลคเป็นกษัตริย์นั้น ท่านได้ทำไปด้วยความจริงใจและซื่อสัตย์หรือ สิ่งที่พวกท่านทำนั้นมันยุติธรรมกับเยรุบบาอัลและครอบครัวของเขาหรือ และพวกท่านได้ทำกับเขาสมกับความดีที่เขาได้ทำไว้หรือ 17 (เพราะพ่อของข้าได้สู้รบเพื่อพวกท่าน และเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยพวกท่านจากเงื้อมมือของชาวมีเดียน 18 แต่ในวันนี้พวกท่านได้ลุกขึ้นมาทำลายครอบครัวของพ่อข้า และได้ฆ่าลูกชายทั้งเจ็ดสิบคนของเขาบนหินก้อนเดียว และตั้งอาบีเมเลคลูกชายของทาสหญิงเป็นกษัตริย์ปกครองเหนือพวกผู้นำชาวเชเคม เพราะเขาเป็นญาติของพวกท่าน)

19 ถ้าท่านได้ทำไปด้วยความจริงใจและซื่อสัตย์ต่อเยรุบบาอัลและครอบครัวของเขาในวันนี้ ก็ขอให้มีความสุขกับอาบีเมเลค และขอให้เขามีความสุขกับพวกท่านด้วย 20 แต่ถ้าไม่เป็นอย่างนั้น ขอให้ไฟออกมาจากอาบีเมเลค และเผาผลาญพวกผู้นำเมืองเชเคมและเบธ-มิลโล และขอให้ไฟออกมาจากผู้นำเชเคมและเบธ-มิลโลเผาผลาญอาบีเมเลค”

21 แล้วโยธามก็วิ่งหนีไป เขาได้ไปที่เมืองเบเออร์และอาศัยอยู่ที่นั่น เพราะเขากลัวอาบีเมเลคพี่ชายของเขา

ลูกา 23:44-24:12

พระเยซูตาย

(มธ. 27:45-56; มก. 15:33-41; ยน. 19:28-30)

44 ประมาณเที่ยง มีแต่ความมืดมิดปกคลุมไปทั่วทั้งแผ่นดินจนถึงบ่ายสามโมง 45 เพราะดวงอาทิตย์หยุดส่องแสงและม่านในวิหาร[a] ก็ขาดกลางออกเป็นสองท่อน 46 พระเยซูร้องตะโกนว่า “พระบิดา ลูกขอมอบจิตวิญญาณของลูกไว้ในมือพระองค์”[b] เมื่อพูดจบพระองค์ก็สิ้นใจตาย

47 เมื่อนายร้อยคนหนึ่งเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็สรรเสริญพระเจ้าและพูดว่า “เขาเป็นคนบริสุทธิ์แน่ๆ”

48 ส่วนฝูงชนที่ได้พากันมามุงดูเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นนี้ เมื่อพวกเขาเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น ต่างก็กลับบ้านและทุบอกตัวเองด้วยความเสียอกเสียใจ 49 ส่วนเพื่อนสนิททั้งหมดของพระเยซู และพวกผู้หญิงที่ติดตามพระองค์มาจากแคว้นกาลิลีนั้น ยังคงยืนดูอยู่ห่างๆ

โยเซฟชาวอาริมาเธีย

(มธ. 27:57-61; มก. 15:42-47; ยน. 19:38-42)

50 มีชายคนหนึ่งชื่อว่า โยเซฟ เป็นสมาชิกสภาสูงของชาวยิว เขาเป็นคนซื่อสัตย์ที่ทำตามใจพระเจ้า 51 เขาไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจและการกระทำของพวกผู้นำชาวยิวคนอื่นๆเกี่ยวกับพระเยซู เขามาจากเมืองอาริมาเธียในแคว้นยูเดีย และเฝ้าคอยอาณาจักรของพระเจ้าอยู่ 52 เขาไปหาปีลาตเพื่อขอศพพระเยซู 53 แล้วจึงเอาศพของพระองค์ลงมาจากไม้กางเขน และพันด้วยผ้าลินิน แล้วนำไปไว้ในอุโมงค์ฝังศพ ซึ่งเจาะไว้ในหิน และยังไม่เคยใช้วางศพใครมาก่อน 54 วันนั้นเป็นวันศุกร์[c] ซึ่งเป็นวันจัดเตรียมและวันหยุดทางศาสนา ก็ใกล้จะเริ่มต้นแล้ว 55 ส่วนพวกผู้หญิงที่ติดตามพระเยซูมาจากแคว้นกาลิลีก็ตามโยเซฟไปที่อุโมงค์ และเห็นว่าเขาวางศพไว้ที่นั่น 56 หลังจากนั้นพวกเขาก็กลับบ้านไปเตรียมเครื่องหอมกับน้ำมันหอมไว้อาบศพพระองค์ แล้วในวันหยุดทางศาสนาพวกเขาก็หยุดพักผ่อนตามที่กฎของโมเสสสั่ง

ข่าวพระเยซูฟื้นคืนชีพ

(มธ. 28:1-10; มก. 16:1-8; ยน. 20:1-10)

24 ตอนเช้าตรู่ของวันอาทิตย์ พวกผู้หญิงก็พากันเอาเครื่องหอมที่ได้เตรียมไว้ไปที่อุโมงค์ แล้วพบว่าหินที่ปิดปากอุโมงค์นั้นถูกกลิ้งเปิดออกแล้ว พวกนางจึงเข้าไปในอุโมงค์ แต่ก็ไม่พบศพองค์เจ้าชีวิต พวกนางก็งงว่าเกิดอะไรขึ้น ทันใดนั้นก็มีชายสองคนใส่เสื้อผ้าสีขาวเป็นประกายมายืนอยู่ข้างๆ พวกนางก็ตกใจกลัวซบหน้าลงกับพื้นดิน ชายทั้งสองก็พูดว่า “พวกเธอมาหาคนที่มีชีวิตในที่ของคนตายทำไม พระเยซูไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว พระองค์ฟื้นขึ้นมาแล้ว จำได้หรือเปล่าตอนที่อยู่แคว้นกาลิลี พระองค์บอกว่า บุตรมนุษย์จะต้องถูกมอบไปไว้ในมือของพวกคนบาป และจะถูกตรึงที่ไม้กางเขน แล้วพระองค์จะฟื้นขึ้นมาใหม่ในวันที่สาม” พวกผู้หญิงก็เลยจำได้ว่าพระองค์เคยพูดถึงสิ่งเหล่านี้

พวกนางรีบกลับไปเล่าเรื่องทั้งหมดนี้ให้พวกศิษย์เอกทั้งสิบเอ็ดคนและพวกศิษย์คนอื่นๆของพระเยซูฟัง 10 พวกผู้หญิงที่มาเล่าเรื่องนี้ให้ฟังก็มี มารีย์ชาวมักดาลา โยอันนา มารีย์แม่ของยากอบ และรวมทั้งหญิงคนอื่นๆ 11 แต่พวกศิษย์เอกไม่เชื่อ และหาว่าเป็นเรื่องเหลวไหล 12 แต่เปโตรวิ่งไปดูที่อุโมงค์ เมื่อเขาก้มลงไปดูก็เห็นแต่ผ้าลินินที่ห่อศพของพระเยซูวางอยู่ แล้วเขาก็จากไปด้วยความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น[d]

สดุดี 99

พระยาห์เวห์พระเจ้าของเรานั้นศักดิ์สิทธิ์

พระยาห์เวห์เป็นกษัตริย์ ให้ชนชาติต่างๆสั่นเทิ้มด้วยความกลัว
    พระยาห์เวห์นั่งอยู่บนบัลลังก์เหนือทูตสวรรค์ที่มีปีก ให้โลกสั่นเทิ้มด้วยความกลัว
พระยาห์เวห์นั้นยิ่งใหญ่ในเมืองศิโยน
    พระองค์นั้นมีอำนาจสูงส่งเหนือชนชาติทั้งสิ้น
ให้พวกเขาสรรเสริญชื่ออันยิ่งใหญ่และน่าเกรงขามของพระองค์
    พระองค์นั้นศักดิ์สิทธิ์
ข้าแต่กษัตริย์ผู้มีฤทธิ์เกรียงไกร ผู้ที่รักความยุติธรรม
    พระองค์ได้ก่อตั้งความเที่ยงธรรม
    พระองค์ทำสิ่งที่ยุติธรรมและถูกต้องให้กับคนของยาโคบ
ให้ยกย่องพระยาห์เวห์ พระเจ้าของเรา
    และกราบลงต่อหน้าที่วางเท้าของพระองค์
    พระองค์นั้นศักดิ์สิทธิ์

โมเสสและอาโรนอยู่ในกลุ่มของนักบวชของพระเจ้า
    ซามูเอลก็อยู่ในพวกคนเหล่านั้นที่เรียกชื่อของพระองค์
    คนเหล่านั้นอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์และพระองค์ก็ตอบพวกเขา
พระองค์พูดกับพวกเขาจากเสาเมฆ
    และพวกเขาก็เชื่อฟังกฎ
    และบัญญัติต่างๆที่พระองค์มอบให้กับพวกเขา

ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของพวกเรา พระองค์ตอบพวกเขาแล้ว
    พวกเขาเห็นว่าพระองค์เป็นทั้งพระเจ้าที่ให้อภัย
    และพระเจ้าที่ลงโทษด้วย สำหรับสิ่งชั่วๆที่พวกเขาทำ
ให้ยกย่องพระยาห์เวห์ พระเจ้าของพวกเรา
    และก้มกราบลงไปทางภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
    เพราะพระยาห์เวห์ พระเจ้าของเรานั้นศักดิ์สิทธิ์

สุภาษิต 14:9-10

คนโง่คิดว่าการชดใช้ความผิดเป็นเรื่องที่น่าหัวเราะเยาะ
    แต่คนซื่อตรงหาทางคืนดีกัน
10 ไม่ว่าใจของคุณจะขมขื่นหรือชื่นบาน
    ไม่มีใครเข้าถึงความรู้สึกนั้นกับคุณได้หรอก

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International